อยากออกกำลังกาย แต่ไม่มีเวลาไปฟิตเนส อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการออกกำลังกายง่ายๆก็คือ การออกกำลังกายที่บ้าน ซึ่งเราอาจจะต้องมีอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆอย่าง เสื่อโยคะ ประโยชน์ใช้สอยเยอะมาก สามารถใช้ฝึกโยคะ หรือฝึกบอดี้เวทก็ได้ แต่เราควรจะเลือกเสื่อโยคะแบบไหนดีที่จะเหมาะกับเรา มาดูคำตอบกันเลยค่ะ
เสื่อโยคะเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่สำคัญสำหรับผู้เล่นโยคะ ช่วยลดแรงกระแทกในระหว่างบริหารท่าโยคะต่างๆ หรือใครอยากออกกำลังกายลดพุง ก็จะต้องมีอุปกรณ์นี้ด้วย เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้เลย เสื่อโยคะเพียงผืนเดียวก็สามารถทำให้หุ่นของเราเป๊ะปังได้
ประเภทของเสื่อโยคะ
1. เสื่อโยคะ TPE (Thermoplastic Elastomer)
เสื่อโยคะยางสังเคราะห์เทอร์โมพลาสติก ผลิตจากวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เสื่อประเภทนี้มีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่น ทนน้ำ ทำให้ไม่มีกลิ่นอับสะสมเมื่อเทียบกับแบบอื่นๆ แต่จะไวต่ออุณหภูมิสูง จึงไม่เหมาะกับการเล่นในที่ที่มีอากาศร้อนมากๆ พื้นผิวของเสื่อจะค่อนข้างลื่นเมื่อเหงื่อออกมากๆ จึงต้องระวังในการใช้งานด้วย
2. เสื่อโยคะ PVC (Polyvinyl Chloride)
ผลิตจากโพลีไวนิลคลอไรด์ ซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมนำมาผลิตเสื่อโยคะมากที่สุด พื้นผิวเรียบ ยืดหยุ่นดี ที่สำคัญราคาไม่แพง แต่จะไม่ทนต่อสภาพอากาศร้อน บางยี่ห้ออาจมีกลิ่นของ PVC ด้วย เสื่อแบบนี้จะต้องใช้งานอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะลื่นไหลง่าย
3. เสื่อโยคะยางพารา หรือยางธรรมชาติ
เสื่อโยคะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตจากยางพาราที่เป็นยางธรรมชาติ ทนทานกว่าประเภท PVC ทนน้ำ ทนเหงื่อ ยึดเกาะพื้นผิวได้ดี จึงไม่ประสบปัญหาลื่นในขณะออกกำลังกาย เป็นแบบยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกโยคะอย่างมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับผู้ที่แพ้ยางพาราอาจจะต้องเลี่ยงเสื่อประเภทนี้
4. เสื่อโยคะ NBR (Nitrile Butadiene)
ยางสังเคราะห์โคโพลิเมอร์ชนิดหนึ่ง มีความทนทานสูง ทนน้ำ ยืดหยุ่นได้ดี ใครที่กำลังมองหาเสื่อโยคะที่ใช้ได้นานตอบโจทย์เลย แต่ไม่เหมาะกับการใช้ในที่ที่มีอากาศร้อนสูง
5. เสื่อโยคะ PER (Polymer Environmental Resin)
ผลิตจากวัสดุเดียวกันกับ PVC แต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า สามารถรีไซเคิลได้ คุณสมบัติคล้ายกับเสื่อโยคะที่ผลิตจาก PVC แต่หาซื้อยากมาก
6. เสื่อโยคะฝ้าย
ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดูดซับเหงื่อและน้ำได้ดี แต่อาจจะต้องทำความสะอาดบ่อยเพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นอับชื้น
วิธีเลือกซื้อเสื่อโยคะ
1. ความหนาของเสื่อ ความหนาบางของเสื่อโยคะ มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการใช้งานด้วย
• ความหนา 8-10 มิลลิเมตร เหมาะกับการออกกำลังกายที่ต้องรับแรงกระแทก อย่างการฝึกบอดี้เวท ไม่ค่อยเหมาะกับการฝึกโยคะเท่าไหร่นัก
• ความหนา 4-6 มิลลิเมตร เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นเล่นโยคะทั่วไป
• ความหนา 1.5 ถึง 3 มิลลิเมตร เหมาะกับผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกโยคะมาอย่างยาวนาน
2. ขนาดของเสื่อ เลือกเสื่อที่เหมาะกับความสูงของเรา โดยจะต้องมีความยาวมากกว่าความสูงของเรา เพื่อที่จะออกกำลังกายในท่านอนได้อย่างง่ายดาย
• ขนาด 173×61 เซนติเมตร เหมาะกับเด็กหรือผู้ที่มีความสูงไม่เกิน 150 เซนติเมตร
• ขนาด 183×61 เซนติเมตร เหมาะกับผู้ที่สูงมากกว่า 150 เซนติเมตรขึ้นไป
3. สไตล์การออกกำลังกาย
• การออกกำลังกายแบบท่านิ่ง ไม่เน้นการเคลื่อนไหว เช่น การฝึกโยคะแบบนิ่ง แนะนำให้เลือกเสื่อที่มีความหนา 6 มิลลิเมตรขึ้นไป เพราะการฝึกแบบนิ่งจะทำให้น้ำหนักส่วนใหญ่กดลงไปที่เสื่อโยคะ หากเลือกแบบบางอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บและมีรอยฟกช้ำได้
• การออกกำลังกายแบบเคลื่อนไหว เน้นท่าทาง จะต้องเลือกเสื่อโยคะแบบไม่ลื่น มีความหนึบ ยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดี ป้องกันการบาดเจ็บขณะที่ทำท่าทาง โดยเลือกความหนาที่ประมาณ 3-5 มิลลิเมตร หรือขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราได้เลย
4. วัสดุและพื้นผิว
เมืองไทยเป็นเมืองร้อน หากออกกำลังกายนอกสถานที่หรือกลางแจ้งอาจทำให้มีเหงื่อออกได้ง่าย เพราะฉะนั้นจะต้องเลือกเสื่อที่ทำความสะอาดง่าย ทนทาน กันน้ำกันเหงื่อได้ดี วัสดุที่ใช้ทำเสื่อโยคะขึ้นอยู่กับประเภทของเสื่อ สำหรับพื้นผิวควรเลือกที่มีพื้นผิวเรียบ นุ่ม แต่หากการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหว แนะนำให้เลือกพื้นผิวแบบหยาบ เนื้อแมตต์ จะทำให้ไม่ลื่น
5. พกพาง่าย น้ำหนักพอดี
สำหรับผู้ที่ชอบออกกำลังกายนอกบ้าน ควรเลือกเสื่อที่มีน้ำหนักพอดี ไม่เกิน 1.5 กิโลกรัม ความหนาไม่เกิน 6 มิลลิเมตร สามารถม้วนเก็บได้ง่าย หรือเป็นแบบที่มีกระเป๋าหรือสายสะพายแถมมาให้ด้วย
เสื่อโยคะเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ควรมีติดบ้านไว้เลยค่ะ เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลาย แต่ก่อนที่จะซื้อควรศึกษาประเภทและการใช้งานให้ดีก่อน เพื่อให้ได้เสื่อโยคะที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การออกกำลังกายของเราด้วย
อ่านบทความ 5 วิธีการเลือกซื้อ ดัมเบล เลือกอย่างไรให้เหมาะ เพื่อความฟิตเฟิร์ม
เครดิตภาพจาก www.canva.com