เราจะเห็นได้ว่ารองเท้าของนักวิ่งแต่ละคนนั้น มีรูปทรงที่แตกต่างออกไปจากรองเท้าผ้าใบธรรมดา ซึ่งถูกออกแบบมาพิเศษ ใช้สำหรับการวิ่งโดยเฉพาะเลย หลายคนอาจคิดว่ารองเท้าสำหรับวิ่งนั้นไม่สำคัญ ใส่เพียงรองเท้าผ้าใบธรรมดาก็ได้ แต่เมื่อลองออกไปวิ่งดูแล้วกลับได้รับบาดเจ็บกลับมา เพราะรองเท้าผ้าใบไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับการกระแทกที่หนักและยาวนาน เพราะฉะนั้นจึงต้องมี วิธีเลือกรองเท้าวิ่ง ให้เหมาะกับการใช้งาน ให้สมกับเป็นรองเท้าคู่ใจเลยค่ะ
เพราะรองเท้าคือสิ่งสำคัญสำหรับนักวิ่ง ดังนั้นจึงต้องมี วิธีเลือกรองเท้าวิ่ง ให้เหมาะสมกับเท้าของตัวเอง โดยจะไม่ให้หลวมหรือคับแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ส่วนประกอบหลักๆของรองเท้าวิ่งมีดังนี้
• Outsole พื้นรองเท้าที่สัมผัสกับพื้น
• Insole พื้นด้านในที่สัมผัสกับเท้า จุดนี้สำคัญเป็นพิเศษ เพราะจะช่วยควบคุมการทรงตัว ช่วยลดแรงกระแทก ป้องกันการบาดเจ็บได้
• Midsole อยู่ระหว่าง outsole และ insole

สิ่งสำคัญที่ใช้ประกอบการตัดสินใจ สำหรับการเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง
1. ความกว้างของรองเท้า
วิธีเลือกรองเท้าวิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีความกว้างที่เหมาะสม ใส่แล้วสามารถขยับเท้าไปมาได้ โดยที่เท้าไม่สัมผัสกับขอบของพื้นรองเท้า เพราะอาจเกิดการเสียดสีจนโดนรองเท้ากัดได้
2. ความยาวของรองเท้า
หลายคนอาจคิดว่า วิธีเลือกรองเท้าวิ่งที่ถูกต้องคือใส่แล้วพอดีเป๊ะ แต่ความจริงแล้วจะต้องมีพื้นที่ให้สามารถขยับเท้าได้ด้วย เนื่องจากเวลาเราวิ่งไปนานๆ เท้าจะบวมขึ้นกว่าปกติ ควรเผื่อช่องว่างระหว่างนิ้วเท้ากลับปลายของรองเท้าเอาไว้ สังเกตได้จากการสวมรองเท้าแล้วลองขยับนิ้วขึ้น-ลง ให้เหลือพื้นที่อยู่นิดหน่อย แต่ต้องไม่หลวมจนเกินไป เช่นเดียวกับด้านหลังของรองเท้า ส้นเท้าไม่ควรหลวมหรือคับเกินไป เพราะหากวิ่งไปนานๆจะรู้สึกเจ็บ
3. หลังเท้า
รองเท้าที่กระชับ จะต้องหุ้มบริเวณหลังเท้าได้พอดี ไม่รัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป สามารถใช้เทคนิคการผูกเชือกรองเท้าช่วยได้

4. ความโค้งงอตามรูปเท้า
โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นการเดินหรือวิ่ง รองเท้าของเราจะโค้งงอ เกิดจุดหักระหว่างปลายรองเท้ากับพื้น ดังนั้นควรมีวิธีเลือกรองเท้าวิ่ง ให้มีจุดหักใกล้เคียงกับรูปเท้าของเราขณะงอด้วย
5. ประเภทของการวิ่ง
วิธีเลือกรองเท้าวิ่ง ให้เหมาะกับแต่ละประเภท เช่น นักวิ่งแข่ง ทั้งระยะสั้นและระยะไกล หรือนักวิ่งสายสุขภาพ โดยเลือกให้เหมาะสมกับระยะทาง พื้นผิวที่เราวิ่ง เช่น ลู่วิ่ง ถนน ทางขรุขระ เป็นต้น

6. ลักษณะของอุ้งเท้า
แน่นอนว่าเท้าของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน เราจึงต้องสังเกตลักษณะของอุ้งเท้าก่อนซื้อรองเท้าวิ่ง สามารถใช้บริการทดสอบจากร้านขายรองเท้าได้เลย หรือทดสอบด้วยตัวเองจากการจุ่มฝ่าเท้าลงไปในน้ำ แล้วเหยียบบนกระดาษ เพื่อให้เห็นรูปอุ้งเท้าของเรา
พนักงานที่ร้านขายรองเท้า จะแนะนำวิธีเลือกรองเท้าวิ่งที่เหมาะสมกับอุ้งเท้าของเรา เช่น รองเท้าเสริมความมั่นคง รองเท้าสำหรับคนเท้าแบน รองเท้าสำหรับคนอุ้งเท้าสูง
7. การวัดขนาดเท้า
แม้ว่าขนาดเท้าของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ต้องมีขนาดเท้ามาตรฐานของเราไว้ ส่วนมากจะวัดเป็นเซนติเมตร เพราะแต่ละประเทศมีขนาดไซส์รองเท้าที่แตกต่างกัน รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ทำ Upper ซึ่งจะส่งผลต่อขนาดของรองเท้าด้วย
8. เลือกซื้อรองเท้าในตอนเย็น
ช่วงเวลา ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งได้เช่นกัน ในช่วงเย็น เท้าของเราจะผ่านการใช้งานมาทั้งวัน จึงทำให้ขยายใหญ่ที่สุด เพราะฉะนั้นเป็นช่วงที่เหมาะกับการซื้อรองเท้าวิ่ง เพื่อให้ได้ขณะที่พอดี ใส่สบาย
9. ความรู้สึกตอนใส่รองเท้า
ไม่ว่าจะเป็นขนาด พื้นผิวแบบไหน วัสดุทำมาจากอะไร แต่เมื่อเราลองใส่แล้วรู้สึกสบาย ไม่รัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเลือกรองเท้าวิ่งที่สำคัญ
10. ถูกชะตาอย่างเดียวไม่พอ
หากเราเลือกซื้อรองเท้าจากความสวยงาม หรือตามเทรนด์ แต่หากใส่แล้วไม่สบาย รองเท้าที่ซื้อมาอาจจะต้องถูกเก็บไว้เป็นของสะสมเพียงอย่างเดียว
เมื่อมีรองเท้าคู่ใจ เวลาใส่ไปไหนก็รู้สึกมั่นใจ วิธีเลือกรองเท้าวิ่ง ที่ถูกต้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรคำนึงถึง เพราะนอกจากจะทำให้เราดูดีแล้ว จะช่วยรักษาสุขภาพเท้า ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการวิ่งได้อีกด้วย
อ่านบทความ 10 อันดับ รองเท้าวิ่งผู้หญิงยี่ห้อไหน 2022
เครดิตรูปภาพทั้งหมดจาก www.pexels.com