การออกกำลังกายที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆเลยก็คือ เวทเทรนนิ่ง เพราะเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย แค่มีอุปกรณ์ก็สามารถออกกำลังกายอยู่ที่บ้านได้ ไม่จำเป็นต้องไปถึงฟิตเนส แถมยังเป็นการออกกำลังกายที่ครอบคลุมทุกสัดส่วนของร่างกายด้วย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแขน สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งฝึกเล่นเวท ควรศึกษาวิธีการเล่นที่ดีก่อน เพราะหากเล่นไม่ถูกต้อง หรือไม่ถูกจังหวะ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
เวทเทรนนิ่ง คืออะไร
การออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อ ที่อาศัยการใช้น้ำหนักเพื่อให้เกิดแรงต้านทาน โดยอาจใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ดัมเบล บาร์เบล ยางยืดออกกำลังกาย การฝึกเวทเทรนนิ่ง ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการปรับตัว มีความแข็งแรงขึ้น

เริ่มต้นเวทเทรนนิ่งอย่างไรดี
สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์เวทเทรนนิ่งมาก่อน ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ หรือเทรนเนอร์ เกี่ยวกับการเล่นที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการออกกำลังกายผิดท่า ซึ่งอาจเกิดการบาดเจ็บตามมาได้
ปรับท่วงท่าการเคลื่อนไหว
การใช้ท่าทางที่เหมาะสมกับตัวเอง จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เสี่ยงต่อการบาดเจ็บน้อยลง ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการวางท่าทางในการเล่นให้ถูกต้อง ซึ่งท่าการเวทเทรนนิ่งที่ถูกต้องนั้นควรจะเคลื่อนไหวข้อได้จนสุด ขณะเล่นควรสวมใส่รองเท้ากีฬา หรือรองเท้าสำหรับออกกำลังกาย เพราะเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยปกป้องเท้า ช่วยลดแรงกระแทก แรงลาก ป้องกันการลื่นล้มหรือบาดเจ็บขณะฝึกเวทเทรนนิ่งได้

เลือกน้ำหนักให้เหมาะสมกับตัวเอง
สำหรับมือใหม่ที่เริ่มฝึกการเล่น เวทเทรนนิ่ง ควรเริ่มจากน้ำหนักเบาๆก่อนในช่วง 3-4 สัปดาห์แรก เมื่อกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นเริ่มชินและปรับตัวจากการยกน้ำหนักได้มากขึ้น ค่อยเพิ่มน้ำหนักของอุปกรณ์ไปตามลำดับ น้ำหนักสำหรับผู้เริ่มต้นควรเลือกแบบที่สามารถยก 12-15 ครั้งได้อย่างสบายๆ แต่ก็หนักพอที่จะทำให้กล้ามเนื้อล้า หลังจากยกซ้ำๆไปแล้ว 1 เซตด้วย
ตั้งเป้าหมายว่า อยากให้หุ่นออกมาเป็นแบบไหน
ต้องทำความเข้าใจกับมัดกล้ามเนื้อต่างๆให้ดี พร้อมกับตั้งเป้าหมายว่าอยากเล่นเวทเทรนนิ่งเพื่ออะไร เพื่อให้มีรูปร่างกระชับขึ้น หรือต้องการเพิ่มสัดส่วนของกล้ามเนื้อ และทำตามตารางฝึกฝนอย่างเคร่งครัด สม่ำเสมอ พร้อมกับการเลือกกินอาหารที่เหมาะสม เพื่อให้กล้ามเนื้อเข้าที่และมีขนาดเด่นชัดขึ้น

ไม่โฟกัสไปที่กล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่ง
หากเน้นไปที่กล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งเพียงส่วนเดียว จะทำให้การเล่นเวทไม่เห็นผล และร่างกายไม่สามารถปรับสมดุลได้ จนเกิดการบาดเจ็บ ควรเล่นให้กล้ามเนื้อทุกสัดส่วนได้รับการกระตุ้น ได้แก่ กล้ามเนื้อท้อง หน้าอก หัวไหล่ สะโพก หลัง แขนและขา พยายามฝึกให้ด้านซ้ายและขวาเท่าเทียมกัน จะช่วยให้เกิดความสมดุลของร่างกาย ทำให้หุ่นเป๊ะ ปังทุกสัดส่วน
อย่าหักโหม
การออกกำลังกายทุกชนิด หากทำแล้วรู้สึกเจ็บควรหยุดพักสัก 2-3 วัน เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พักฟื้น ในระหว่างการออกกำลังกายควรหาเวลาพักสัก 1 วัน หรือ 2-3 วันต่อสัปดาห์ หรือหันไปออกกำลังกายแบบอื่นแทน
ในขณะที่ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ไม่ควรกลั้นหายใจขณะยกอุปกรณ์ ควรหายใจเข้า-ออกอย่างสม่ำเสมอในระหว่างที่ออกกำลังกาย และหลังการเวทเทรนนิ่งแต่ละส่วน ควรหยุดพักกล้ามเนื้อสักครู่ อย่ารีบทำติดต่อกันจนเกินไป

การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ใช้เวลานานเท่าไหร่จึงจะเห็นผล
หากทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง การเล่นเวทเทรนนิ่งสามารถเห็นผลได้ในช่วงระยะสั้นๆ เพียงออกกำลังกายสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 20-30 นาที ถือว่าเพียงพอสำหรับการเวทเทรนนิ่งแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำทุกวันเป็นเวลานานๆ ควรทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายส่วนอื่นๆด้วย เพื่อเป็นการพักกล้ามเนื้อที่เล่นเวทมาเป็นเวลานาน
การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย เพื่อให้รูปร่างและสัดส่วนดูดีขึ้น และส่งผลต่อความแข็งแรงของร่างกาย ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก และยังเป็นการออกกำลังกายที่เผาผลาญแคลอรี่ได้ดีมาก แม้จะหยุดออกกำลังกายไปแล้วหลายชั่วโมง ร่างกายก็ยังเผาผลาญพลังงานได้อยู่ มือใหม่สำหรับการออกกำลังกายสามารถฝึกตามได้ไม่ยากเลย
อ่านบทความ เริ่มต้นออกกำลังกาย ออกอย่างไรให้ถูกวิธี
เครดิตรูปภาพทั้งหมดจาก www.canva.com